วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เลือกคอนโดชั้นไหนดีให้ถูกฮวงจุ้ย

เลือกคอนโดชั้นไหนดีให้ถูกฮวงจุ้ย
ภาวะน้ำมันแพงขึ้นทุกวัน ช่วงนี้จึงมีคอนโดใหม่ๆเกิดขึ้นกันมากมายโดยเฉพาะโซนที่ติดแนวรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน ทำให้ผู้คนที่เคยคิดจะมีบ้านที่มีบริเวณ มีเนื้อที่เยอะๆซึ่งส่วนใหญ่บ้านเหล่านี้ก็มักจะอยู่แถบชานเมือง ทำให้เสียค่าเดินทางมาก จึงต้องเปลี่ยนใจคิดหาบ้านในเมืองแทน แต่ก็เป็นเพราะราคาที่ดินกลางเมืองก็แพงเสียหลือเกิน คอนโดจึงเป็นทางเลือกที่ไม่ไกลเกินเอื้อมและตอบโจทย์ในกระเป๋า โครงการคอนโดมิเนียมต่างๆก็เลยบูมขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด

ผู้ที่สนใจ เรื่องฮวงจุ้ยก็มักจะหาเลือกชั้นยอดฮิต อาทิเช่น ชั้น 9 หมายถึงความก้าวหน้าชั้น 8 ซึ่งเป็นเลขมงคลในทางจีน หรือ ชั้น 27 เนื่องจาก 2+7 ได้ 9 เป็นต้น ในทางตรงกันข้ามชั้นที่คนกลัวที่สุดก็คงไม่พ้น ชั้น 13 เลขอาถรรพ์ของฝรั่ง ซึ่งคอนโดหลายแห่งมักเรียกว่าชั้น 12A แต่ก็มีชั้นที่กึ่งดีกึ่งร้ายก็คือ ชั้น 6 ซึ่งคนจีนบอกว่าดี เพราะไปคล้องกับคำว่า “ฮก” ที่มาจากเทพเจ้า ฮก ลก ซิ่ว แต่คนไทยบอกว่าไม่ดี เพราะเหมือน “หก” คะเมนตีลังกา แล้วจะเชื่อคนจีนหรือคนไทยดี

แท้ที่จริงแล้ววิธีการที่พูดถึงไป ทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ถูกต้องตามหลักวิชาฮวงจุ้ย แต่เป็นเรื่องของความเชื่อของคนโบราณหลายๆอย่างมาปะปนกัน เช่น ประเภทคำพ้องรูปพ้องเสียงเสียมากกว่า ไม่มีหลักวิชาการรองรับ เพราะวิชาฮวงจุ้ยที่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของเทคนิคการสร้างสัมพันธ์พลังงาน ที่ถูกส่งมาจากจักรวาล (พลังฟ้า) และพลังของสิ่งแวดล้อม (พลังดิน) ให้เชื่อมโยงส่งเสริมกับพลังในตัวของคน

หลักการของฮวงจุ้ยที่ถูก ต้องซึ่งปรากฏอยู่ในคัมภีร์โบราณนั้น เป็นวิชาที่ว่าด้วยสูตรลับในการคำนวณกระแสพลัง เพื่อหาหนทางที่จะเหนี่ยวนำพลังงานของสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวให้มาเสริม คน ซึ่งกระแสพลังเหล่านี้ ก็คือพลังงานของแม่เหล็กโลกที่ห่อหุ้มโลกทั้งใบไว้ เนื่องจากมนุษย์ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่ดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางสนามพลังของแม่ เหล็กโลกอยู่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงทั้งชีวิตของเรา ไม่ได้มีส่วนใดในคัมภีร์ที่กล่าวเอาไว้เกี่ยวกับความเชื่อหรือไสยศาสตร์เลย สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนที่ซินแสรุ่นหลังที่อยากโปรโมทขายสินค้าและ อุปกรณ์แก้ฮวงจุ้ยของตนเองเป็นผู้อุปโลกน์ขึ้นมาภายหลัง

ซึ่งในทาง วิทยาศาสตร์นั้น มีการค้นพบว่าในตัวมนุษย์มีกระแสแม่เหล็กและไฟฟ้าอ่อนๆอยู่ภายในร่างกายทุก คน โดยในเลือดจะมีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบหลัก เพราะพลังของแม่เหล็กของโลกจะกระตุ้นให้ธาตุเหล็กในเม็ดเลือดเปลี่ยนสภาพให้ เป็นแม่เหล็กอ่อนๆ ที่มีลักษณะเป็นทั้งขั้วบวกและขั้วลบในตัว โดยใช้เป็นกลไกในการส่งผ่านสารอาหาร ออกซิเจน ข้อมูลคำสั่งไปยังเซลและอวัยวะทุกส่วน ถ้าประจุไฟฟ้านี้มีการจัดเรียงเป็นระเบียบ ก็จะทำให้โลหิตมีการหมุนเวียนดี สามารถนำสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลได้ดีขึ้น จึงทำให้สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ประจุมีการเรียงตัวที่สับสนก็จะทำให้เกิดความเจ็บป่วย ต่างๆนานา

เพราะเหตุที่บ้านของเราทุกคน ต่างก็สร้างอยู่ท่ามกลางสนามพลังของแม่เหล็กโลก โดยที่บ้านแต่ละหลังก็จะหันทำมุมกับเส้นแรงของแม่เหล็กไม่เท่ากัน จึงได้รับพลังงานที่แตกต่างกันเข้ามาอยู่ในบ้าน ซึ่งการที่พวกเราใช้ชีวิตอยู่ในบ้านวันละ 8 -10 ชั่วโมงทุกวัน พลังของแม่เหล็กโลกที่สะสมตัวในบ้านจึงได้มีอิทธิพลต่อชีวิตของคนค่อนข้าง มาก

เช่นเดียวกับอาคารสูงที่มีหลายๆชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็จะกั้นสนามแม่เหล็กที่แผ่ออกมาจากใจกลางของโลก ให้เกิดรูปแบบทางพลังงานที่แตกต่างกัน เป็นที่มาให้เรารู้ได้ว่าชั้นไหนเป็นพลังธาตุอะไร แล้วส่งเสริมเข้ากับพลังในตัวของเราหรือไม่





วิธี การจะดูว่าคอนโดชั้นไหนดีนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับรหัสพลังของบุคคล ว่าไปสอดคล้องกับชั้นต่างๆของคอนโดหรือไม่ โดยรหัสพลังของชั้นคอนโดจะมีทั้งหมด 9 ชนิดด้วยกัน คือ

ชั้นที่ลงท้ายด้วย 1 เป็นธาตุน้ำ
ชั้นเลข 2 - 5 – 8 - 0 ธาตุดิน
ชั้นเลข 3 – 4 ธาตุไม้
ชั้น 6 – 7 ธาตุทอง
ชั้น 9 ธาตุไฟ

วิธี การนับชั้นคอนโดจะต้องนับชั้นจอดรถด้วย แต่จะไม่นับชั้นใต้ดิน ไม่นับชั้นลอย หากเป็นชั้นสูงๆ เช่น ชั้นที่ 24 ให้ถือเอาเลขหลังสุดก็คือ 4 มาใช้ในการเปรียบเทียบ
ส่วนรหัสพลังของบุคคลจะคำนวณจากปีเกิด วิธีการหารหัสประจำปีเกิด

***ผู้หญิง ให้เอาตัวเลข พ.ศ.ทั้ง 4 หลักบวกกัน ให้เหลือเลขตัวเดียว บวกด้วย 1 จะเป็นรหัสประจำปีเกิดนั้น

เช่น เกิด พ.ศ. . 2550 วิธีคำนวณ คือ 2 + 5 + 5 + 0 ได้ 12 เลขตัวเดียวคือ 1 + 2 = 3 บวกด้วย 1 เป็น 4 จะเป็นรหัสประจำปีเกิด

*** ผู้ชาย ให้เอาตัวเลข พ.ศ.ทั้ง 4 หลักบวกกัน ให้เหลือเลขตัวเดียว บวกด้วย 1 แล้วนำไปลบออกจาก 15 จะเป็นรหัสประจำปีเกิดนั้น ( ถ้าผล เกิน9 ให้จับบวกกัน เหลือเลขตัวเดียว )
เช่น เกิด พ.ศ. . 2550 วิธีคำนวณ คือ 2 + 5 + 5 + 0 ได้ 12 เลขตัวเดียวคือ 1 + 2 = 3 บวกด้วย 1 แล้วนำไปลบออกจาก 15 เป็น 11
ให้จับบวกกัน เหลือเลขตัวเดียว คือ 1 +1 = 2 เป็นรหัสประจำปีเกิด

หมายเหตุ เรานับปีใหม่กันวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปีนะครับ ใครเกิดก่อนวันที่ 4 กพ. ยังให้นับเป็นปีเก่า
เช่น พ.ศ.2511 คือ ผู้ชายคือรหัส 5 ผู้หญิงคือรหัส 1

เมื่อเราทราบแล้วว่าเราเป็นบุคคลรหัสใด ก็ให้มาเทียบกับตารางด้านล่าง รวมทั้งปฏิกิริยาธาตุดังต่อไปนี้ครับ

คนรหัส 1 เป็นธาตุน้ำ ควรเลือกชั้น 9 – 4 – 3 – 1 รองลงมาคือ 6 – 7
คนรหัส 2 - 5 – 8 - 0 ธาตุดิน ควรเลือกชั้น 6 – 8 – 7 – 2 – 5 รองลงมาคือ 9
คนรหัส 3 – 4 ธาตุไม้ ควรเลือกชั้น 1 – 3 – 4 – 9
คนรหัส 6 – 7 ธาตุทอง ควรเลือกชั้น 2 – 5 – 6 – 7 – 8
คนรหัส 9 ธาตุไฟ ควรเลือกชั้น 3 – 4 – 1 – 9

หาก ท่านใดคำนวณออกมาแล้วผลลัพธ์เป็นในทางร้ายก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นหลักการข้อแรกในการเลือกเท่านั้น เรายังสามารถใช้วิธีการจัดฮวงจุ้ยภายในการแก้ไขได้ครับ เนื้อหาวิชายังมีที่ลึกซึ้งไปกว่านี้อีกมาก เรียกว่าถ้าจะเอากันจริงๆก็ต้องเรียนกันเป็นปี แต่คิดว่าหลักการเบื้องต้นนี้ก็คงเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านมิใช่น้อยในการ เลือกซื้อคอนโดครั้งต่อไป

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ขั้นตอนและวิธีการเลือกซื้อบ้าน

"บ้าน" เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีราคาแพงที่สุด และยังเป็นทรัพย์สินที่มีราคาแพงที่สุดในช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่ง การซื้อบ้านหนึ่งหลังจึงอาจจะซื้อได้ครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นการเลือกและการตัดสินใจซื้อบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับผู้ที่ปรารถนาอยากจะมีบ้านเป็นคนตัวเอง แต่เนื่องจากแต่ละคนไม่ค่อยจะมีประสบการณ์หรือความรู้ในการเลือกซื้อบ้านมากนัก ด้วยความที่เป็นทรัพย์สินที่หาซื้อกันไม่บ่อย ทำให้การเลือกและตัดสินใจซื้ออาจเกิดขึ้นตามแรงจูงใจและการโฆษณาของผู้ขายเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้อยู่อาศัยและเกิดปัญหาขึ้นมากมายภายหลังการเข้าอยู่อาศัย
ดังนั้นก่อนที่จะคิดตัดสินใจซื้อบ้าน ควรจะพิจารณาหลักการในเบื้องต้นเพื่อให้บ้านที่จะซื้อเป็นที่อยู่อาศัยที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงสำหรับผู้อยู่อาศัย โดยมีวิธีเลือกซื้อที่เป็นขั้นตอนอย่างกว้างๆ ทั้งการซื้อบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือห้องชุด ดังนี้
-การพิจารณาทำเลที่ตั้งโครงการ
หลังจากที่ผู้ซื้อประเมินกำลังเงินของตัวเองอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า รายได้ของครอบครัวเหมาะสมที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในประเภทไหนที่จะกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ และสามารถผ่อนส่งได้โดยไม่เดือดร้อน สิ่งแรกที่ผู้ซื้อจะต้องปฏิบัติ คือ การหาข้อมูลเบื้องต้นของบ้านที่ต้องการซื้อ โดยยึดเอาทำเลที่ตั้งที่สมาชิกในครอบครัวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกที่สุด มาเป็นข้อพิจารณาอันดับแรก ได้แก่ การเดินทางไปสถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของสมาชิกในครอบครัว ระบบโครงข่ายคมนาคมที่มีระบบขนส่งรองรับ ทำให้การเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจประจำวันสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งการเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านจะพิจารณาจากความเหมาะสมกับความต้องการและวิถีชีวิตของคนในครอบครัวเป็นหลัก
สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นผู้ซื้อจะสามารถหาได้จากสื่อหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารที่เกี่ยวกับการซื้อ-ขายบ้าน หรือในเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการข้อมูลการซื้อบ้านที่เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเลือกหาโครงการในทำเลที่ต้องการ เช่น เว็บไซต์ www.GHBHomeCenter.com ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ , เว็บไซต์ www.home.co.th ของโฮมบายเออร์ไกด์ หรือเว็บไซต์ www.homedd.com ของบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น รวมทั้งข้อมูลจากโบร์ชัวร์โฆษณาของโครงการ และงานแสดงบ้านที่จัดขึ้นในโอกาสต่างๆ จะเป็นแหล่งที่ผู้ซื้อสามารถที่จะเก็บข้อมูลโครงการบ้านต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
-เลือกโครงการและราคาที่เหมาะสม
เมื่อผู้ซื้อได้ทำเลที่ต้องการแล้ว ในแต่ละทำเลจะมีโครงการที่ให้ผู้ซื้อเลือกอย่างมากมายทั้งโครงการขนาดใหญ่และขนาดเล็ก สิ่งที่จะต้องพิจารณาในขั้นตอนต่อไป คือ การพิจารณาเลือกโครงการและราคาที่เหมาะสม สำหรับโครงการที่ดีนั้นควรจะมีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ครบถ้วน เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายการจัดสรรที่ดินกำหนดหรือไม่ สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ หรือสปอร์ต คลับ มีตรงตามความต้องการของผู้ซื้อหรือไม่ ในบริเวณใกล้เคียงโครงการมีโรงเรียน โรงพยาบาล หรือศูนย์การค้าหรือไม่ รวมถึง สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกโครงการ เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัวหรือไม่
นอกจากนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกประการหนึ่ง คือ บริษัทหรือเจ้าของโครงการมีความน่าเชื่อถือมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด โดยพิจารณาจากประวัติชื่อเสียงและผลงานในอดีต เพื่อเป็นเครื่องรับประกันในขั้นต้นว่า ผู้ซื้อจะได้บ้านที่มีมาตรฐานทั้งด้านความมั่นคงแข็งแรง และก่อสร้างบ้านให้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันอย่างตรงเวลา ในกรณีนี้ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์และมีความเป็นมืออาชีพ จะได้เปรียบกว่าผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีผลงานในการก่อสร้างเลย
สำหรับเรื่องราคาเป็นสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้ซื้อจะต้องพิจารณาให้ตรงกับกำลังซื้อที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อบ้านโดยคำนึ่งถึงราคาที่ถูกที่สุดไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้องเสมอไป เพราะโครงการที่มีราคาถูกอาจจะก่อสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำระยะการใช้งานน้อยทำให้ชำรุดทรุดโทรมได้ง่ายเสียค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาในระยะยาวกว่าบ้านที่มีราคาสูง แต่ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐาน ดังนั้นการพิจารณาเรื่องราคาบ้านในโครงการประเภทเดียวกันขนาดเท่ากันจะคำนึงถึงความคุ้มค่ามากกว่า โดยพิจารณาในแง่ของราคาที่ดิน ราคาค่าก่อสร้าง และคุณภาพของตัวบ้านเป็นประเด็นหลัก
การเลือกโครงการและราคาที่เหมาะสม ผู้ซื้อจะสามารถนำโครงการที่อยู่ในทำเลเดียวกันมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในจุดต่างๆ ได้ เพื่อคัดเลือกโครงการและบ้านที่มีราคาเหมาะสมคุ้มค่ากับการซื้อ การพิจารณาเปรียบเทียบจะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ผู้ซื้อจะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านในโครงการไหนราคาเท่าไหร่ โดยการเปรียบเทียบทั้งด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ สิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อม ราคาซื้อขายต่อตารางเมตร คุณภาพวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง ผู้ซื้อสมควรเปรียบเทียบข้อมูลจากการไปดูสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการจริง นำมาประมวลโดยการให้คะแนนในเรื่องต่างๆ รวมทั้งการปรึกษากับสมาชิกในครอบครัว และสอบถามจากผู้ที่ซื้อบ้านอยู่ในโครงการนั้นๆ ผู้ซื้อจะได้บ้านในโครงการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
-การเลือกตำแหน่งที่ดินและแบบบ้าน
เมื่อผู้ซื้อสามารถเลือกโครงการและราคาที่เหมาะสมได้แล้ว สิ่งที่ผู้ซื้อจะต้องพิจารณาในขั้นต่อไป คือ การเลือกตำแหน่งที่ดินและแบบบ้าน สำหรับเรื่องตำแหน่งที่ดินในโครงการจะเลือกแปลงที่เหมาะสมตามความต้องการของผู้ซื้อ เช่น อยู่ใกล้สวนสาธารณะ เพื่อต้องการสัมผัสความเป็นธรรมชาติและสะดวกในการออกกำลังกาย ต้องการอยู่ด้านในโครงการเพื่อต้องการความสงบเงียบ แต่อาจจะเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยในทรัพย์สิน ในกรณีที่โครงการไม่สามารถจัดเวรยามได้เพียงพอ หรือต้องการอยู่ด้านหน้าโครงการเพื่อความสะดวกในการเดินทางหรือต้องการประกอบกิจการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อเป็นหลัก นอกจากนั้นผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึงราคาบ้านที่เลือกในแต่ละแปลงซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปอีกด้วย
สำหรับแบบบ้านก็เช่นเดียวกัน การเลือกขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของผู้ซื้อเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันแต่ละโครงการจะมีแบบบ้านให้ผู้ซื้อเลือกอย่างมากมาย ทั้งสไตล์ร่วมสมัย สไตล์โมเดิร์น หรือสไตล์ไทยประยุกต์ที่กำลังเป็นที่นิยม แต่ในขณะเดียวกันผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยภายในบ้านที่เหมาะสมกับความต้องการ และความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญ ประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสม อาทิเช่น มีห้องต่างๆ ตรงกับความต้องการ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป สามารถติดต่อกันภายในระหว่างห้องได้สะดวกไม่ต้องขึ้นๆ ลงๆ ป้องกันแดด ฝนได้ดี มีการถ่ายเทอากาศดี ซึ่งรูปแบบบ้านจะต้องเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศนั้นๆ การนำแบบบ้านในต่างประเทศมาใช้จะต้องมีการปรับปรุงประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน
วิธีและขั้นตอนดังที่กล่าวข้างต้น ช่วยทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจเลือกซื้อบ้านได้อย่างเหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง เพราะเลือกซื้อบ้านที่ไม่คุ้มค่ากับการอยู่อาศัย



แหล่งข้อมูล : www.ghbhomecenter.com