วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เลือกคอนโดชั้นไหนดีให้ถูกฮวงจุ้ย

เลือกคอนโดชั้นไหนดีให้ถูกฮวงจุ้ย
ภาวะน้ำมันแพงขึ้นทุกวัน ช่วงนี้จึงมีคอนโดใหม่ๆเกิดขึ้นกันมากมายโดยเฉพาะโซนที่ติดแนวรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน ทำให้ผู้คนที่เคยคิดจะมีบ้านที่มีบริเวณ มีเนื้อที่เยอะๆซึ่งส่วนใหญ่บ้านเหล่านี้ก็มักจะอยู่แถบชานเมือง ทำให้เสียค่าเดินทางมาก จึงต้องเปลี่ยนใจคิดหาบ้านในเมืองแทน แต่ก็เป็นเพราะราคาที่ดินกลางเมืองก็แพงเสียหลือเกิน คอนโดจึงเป็นทางเลือกที่ไม่ไกลเกินเอื้อมและตอบโจทย์ในกระเป๋า โครงการคอนโดมิเนียมต่างๆก็เลยบูมขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด

ผู้ที่สนใจ เรื่องฮวงจุ้ยก็มักจะหาเลือกชั้นยอดฮิต อาทิเช่น ชั้น 9 หมายถึงความก้าวหน้าชั้น 8 ซึ่งเป็นเลขมงคลในทางจีน หรือ ชั้น 27 เนื่องจาก 2+7 ได้ 9 เป็นต้น ในทางตรงกันข้ามชั้นที่คนกลัวที่สุดก็คงไม่พ้น ชั้น 13 เลขอาถรรพ์ของฝรั่ง ซึ่งคอนโดหลายแห่งมักเรียกว่าชั้น 12A แต่ก็มีชั้นที่กึ่งดีกึ่งร้ายก็คือ ชั้น 6 ซึ่งคนจีนบอกว่าดี เพราะไปคล้องกับคำว่า “ฮก” ที่มาจากเทพเจ้า ฮก ลก ซิ่ว แต่คนไทยบอกว่าไม่ดี เพราะเหมือน “หก” คะเมนตีลังกา แล้วจะเชื่อคนจีนหรือคนไทยดี

แท้ที่จริงแล้ววิธีการที่พูดถึงไป ทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ถูกต้องตามหลักวิชาฮวงจุ้ย แต่เป็นเรื่องของความเชื่อของคนโบราณหลายๆอย่างมาปะปนกัน เช่น ประเภทคำพ้องรูปพ้องเสียงเสียมากกว่า ไม่มีหลักวิชาการรองรับ เพราะวิชาฮวงจุ้ยที่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของเทคนิคการสร้างสัมพันธ์พลังงาน ที่ถูกส่งมาจากจักรวาล (พลังฟ้า) และพลังของสิ่งแวดล้อม (พลังดิน) ให้เชื่อมโยงส่งเสริมกับพลังในตัวของคน

หลักการของฮวงจุ้ยที่ถูก ต้องซึ่งปรากฏอยู่ในคัมภีร์โบราณนั้น เป็นวิชาที่ว่าด้วยสูตรลับในการคำนวณกระแสพลัง เพื่อหาหนทางที่จะเหนี่ยวนำพลังงานของสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวให้มาเสริม คน ซึ่งกระแสพลังเหล่านี้ ก็คือพลังงานของแม่เหล็กโลกที่ห่อหุ้มโลกทั้งใบไว้ เนื่องจากมนุษย์ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่ดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางสนามพลังของแม่ เหล็กโลกอยู่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงทั้งชีวิตของเรา ไม่ได้มีส่วนใดในคัมภีร์ที่กล่าวเอาไว้เกี่ยวกับความเชื่อหรือไสยศาสตร์เลย สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนที่ซินแสรุ่นหลังที่อยากโปรโมทขายสินค้าและ อุปกรณ์แก้ฮวงจุ้ยของตนเองเป็นผู้อุปโลกน์ขึ้นมาภายหลัง

ซึ่งในทาง วิทยาศาสตร์นั้น มีการค้นพบว่าในตัวมนุษย์มีกระแสแม่เหล็กและไฟฟ้าอ่อนๆอยู่ภายในร่างกายทุก คน โดยในเลือดจะมีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบหลัก เพราะพลังของแม่เหล็กของโลกจะกระตุ้นให้ธาตุเหล็กในเม็ดเลือดเปลี่ยนสภาพให้ เป็นแม่เหล็กอ่อนๆ ที่มีลักษณะเป็นทั้งขั้วบวกและขั้วลบในตัว โดยใช้เป็นกลไกในการส่งผ่านสารอาหาร ออกซิเจน ข้อมูลคำสั่งไปยังเซลและอวัยวะทุกส่วน ถ้าประจุไฟฟ้านี้มีการจัดเรียงเป็นระเบียบ ก็จะทำให้โลหิตมีการหมุนเวียนดี สามารถนำสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลได้ดีขึ้น จึงทำให้สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ประจุมีการเรียงตัวที่สับสนก็จะทำให้เกิดความเจ็บป่วย ต่างๆนานา

เพราะเหตุที่บ้านของเราทุกคน ต่างก็สร้างอยู่ท่ามกลางสนามพลังของแม่เหล็กโลก โดยที่บ้านแต่ละหลังก็จะหันทำมุมกับเส้นแรงของแม่เหล็กไม่เท่ากัน จึงได้รับพลังงานที่แตกต่างกันเข้ามาอยู่ในบ้าน ซึ่งการที่พวกเราใช้ชีวิตอยู่ในบ้านวันละ 8 -10 ชั่วโมงทุกวัน พลังของแม่เหล็กโลกที่สะสมตัวในบ้านจึงได้มีอิทธิพลต่อชีวิตของคนค่อนข้าง มาก

เช่นเดียวกับอาคารสูงที่มีหลายๆชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็จะกั้นสนามแม่เหล็กที่แผ่ออกมาจากใจกลางของโลก ให้เกิดรูปแบบทางพลังงานที่แตกต่างกัน เป็นที่มาให้เรารู้ได้ว่าชั้นไหนเป็นพลังธาตุอะไร แล้วส่งเสริมเข้ากับพลังในตัวของเราหรือไม่





วิธี การจะดูว่าคอนโดชั้นไหนดีนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับรหัสพลังของบุคคล ว่าไปสอดคล้องกับชั้นต่างๆของคอนโดหรือไม่ โดยรหัสพลังของชั้นคอนโดจะมีทั้งหมด 9 ชนิดด้วยกัน คือ

ชั้นที่ลงท้ายด้วย 1 เป็นธาตุน้ำ
ชั้นเลข 2 - 5 – 8 - 0 ธาตุดิน
ชั้นเลข 3 – 4 ธาตุไม้
ชั้น 6 – 7 ธาตุทอง
ชั้น 9 ธาตุไฟ

วิธี การนับชั้นคอนโดจะต้องนับชั้นจอดรถด้วย แต่จะไม่นับชั้นใต้ดิน ไม่นับชั้นลอย หากเป็นชั้นสูงๆ เช่น ชั้นที่ 24 ให้ถือเอาเลขหลังสุดก็คือ 4 มาใช้ในการเปรียบเทียบ
ส่วนรหัสพลังของบุคคลจะคำนวณจากปีเกิด วิธีการหารหัสประจำปีเกิด

***ผู้หญิง ให้เอาตัวเลข พ.ศ.ทั้ง 4 หลักบวกกัน ให้เหลือเลขตัวเดียว บวกด้วย 1 จะเป็นรหัสประจำปีเกิดนั้น

เช่น เกิด พ.ศ. . 2550 วิธีคำนวณ คือ 2 + 5 + 5 + 0 ได้ 12 เลขตัวเดียวคือ 1 + 2 = 3 บวกด้วย 1 เป็น 4 จะเป็นรหัสประจำปีเกิด

*** ผู้ชาย ให้เอาตัวเลข พ.ศ.ทั้ง 4 หลักบวกกัน ให้เหลือเลขตัวเดียว บวกด้วย 1 แล้วนำไปลบออกจาก 15 จะเป็นรหัสประจำปีเกิดนั้น ( ถ้าผล เกิน9 ให้จับบวกกัน เหลือเลขตัวเดียว )
เช่น เกิด พ.ศ. . 2550 วิธีคำนวณ คือ 2 + 5 + 5 + 0 ได้ 12 เลขตัวเดียวคือ 1 + 2 = 3 บวกด้วย 1 แล้วนำไปลบออกจาก 15 เป็น 11
ให้จับบวกกัน เหลือเลขตัวเดียว คือ 1 +1 = 2 เป็นรหัสประจำปีเกิด

หมายเหตุ เรานับปีใหม่กันวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปีนะครับ ใครเกิดก่อนวันที่ 4 กพ. ยังให้นับเป็นปีเก่า
เช่น พ.ศ.2511 คือ ผู้ชายคือรหัส 5 ผู้หญิงคือรหัส 1

เมื่อเราทราบแล้วว่าเราเป็นบุคคลรหัสใด ก็ให้มาเทียบกับตารางด้านล่าง รวมทั้งปฏิกิริยาธาตุดังต่อไปนี้ครับ

คนรหัส 1 เป็นธาตุน้ำ ควรเลือกชั้น 9 – 4 – 3 – 1 รองลงมาคือ 6 – 7
คนรหัส 2 - 5 – 8 - 0 ธาตุดิน ควรเลือกชั้น 6 – 8 – 7 – 2 – 5 รองลงมาคือ 9
คนรหัส 3 – 4 ธาตุไม้ ควรเลือกชั้น 1 – 3 – 4 – 9
คนรหัส 6 – 7 ธาตุทอง ควรเลือกชั้น 2 – 5 – 6 – 7 – 8
คนรหัส 9 ธาตุไฟ ควรเลือกชั้น 3 – 4 – 1 – 9

หาก ท่านใดคำนวณออกมาแล้วผลลัพธ์เป็นในทางร้ายก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นหลักการข้อแรกในการเลือกเท่านั้น เรายังสามารถใช้วิธีการจัดฮวงจุ้ยภายในการแก้ไขได้ครับ เนื้อหาวิชายังมีที่ลึกซึ้งไปกว่านี้อีกมาก เรียกว่าถ้าจะเอากันจริงๆก็ต้องเรียนกันเป็นปี แต่คิดว่าหลักการเบื้องต้นนี้ก็คงเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านมิใช่น้อยในการ เลือกซื้อคอนโดครั้งต่อไป

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ขั้นตอนและวิธีการเลือกซื้อบ้าน

"บ้าน" เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีราคาแพงที่สุด และยังเป็นทรัพย์สินที่มีราคาแพงที่สุดในช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่ง การซื้อบ้านหนึ่งหลังจึงอาจจะซื้อได้ครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นการเลือกและการตัดสินใจซื้อบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับผู้ที่ปรารถนาอยากจะมีบ้านเป็นคนตัวเอง แต่เนื่องจากแต่ละคนไม่ค่อยจะมีประสบการณ์หรือความรู้ในการเลือกซื้อบ้านมากนัก ด้วยความที่เป็นทรัพย์สินที่หาซื้อกันไม่บ่อย ทำให้การเลือกและตัดสินใจซื้ออาจเกิดขึ้นตามแรงจูงใจและการโฆษณาของผู้ขายเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้อยู่อาศัยและเกิดปัญหาขึ้นมากมายภายหลังการเข้าอยู่อาศัย
ดังนั้นก่อนที่จะคิดตัดสินใจซื้อบ้าน ควรจะพิจารณาหลักการในเบื้องต้นเพื่อให้บ้านที่จะซื้อเป็นที่อยู่อาศัยที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงสำหรับผู้อยู่อาศัย โดยมีวิธีเลือกซื้อที่เป็นขั้นตอนอย่างกว้างๆ ทั้งการซื้อบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือห้องชุด ดังนี้
-การพิจารณาทำเลที่ตั้งโครงการ
หลังจากที่ผู้ซื้อประเมินกำลังเงินของตัวเองอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า รายได้ของครอบครัวเหมาะสมที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในประเภทไหนที่จะกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ และสามารถผ่อนส่งได้โดยไม่เดือดร้อน สิ่งแรกที่ผู้ซื้อจะต้องปฏิบัติ คือ การหาข้อมูลเบื้องต้นของบ้านที่ต้องการซื้อ โดยยึดเอาทำเลที่ตั้งที่สมาชิกในครอบครัวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกที่สุด มาเป็นข้อพิจารณาอันดับแรก ได้แก่ การเดินทางไปสถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของสมาชิกในครอบครัว ระบบโครงข่ายคมนาคมที่มีระบบขนส่งรองรับ ทำให้การเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจประจำวันสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งการเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านจะพิจารณาจากความเหมาะสมกับความต้องการและวิถีชีวิตของคนในครอบครัวเป็นหลัก
สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นผู้ซื้อจะสามารถหาได้จากสื่อหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารที่เกี่ยวกับการซื้อ-ขายบ้าน หรือในเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการข้อมูลการซื้อบ้านที่เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเลือกหาโครงการในทำเลที่ต้องการ เช่น เว็บไซต์ www.GHBHomeCenter.com ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ , เว็บไซต์ www.home.co.th ของโฮมบายเออร์ไกด์ หรือเว็บไซต์ www.homedd.com ของบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น รวมทั้งข้อมูลจากโบร์ชัวร์โฆษณาของโครงการ และงานแสดงบ้านที่จัดขึ้นในโอกาสต่างๆ จะเป็นแหล่งที่ผู้ซื้อสามารถที่จะเก็บข้อมูลโครงการบ้านต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
-เลือกโครงการและราคาที่เหมาะสม
เมื่อผู้ซื้อได้ทำเลที่ต้องการแล้ว ในแต่ละทำเลจะมีโครงการที่ให้ผู้ซื้อเลือกอย่างมากมายทั้งโครงการขนาดใหญ่และขนาดเล็ก สิ่งที่จะต้องพิจารณาในขั้นตอนต่อไป คือ การพิจารณาเลือกโครงการและราคาที่เหมาะสม สำหรับโครงการที่ดีนั้นควรจะมีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ครบถ้วน เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายการจัดสรรที่ดินกำหนดหรือไม่ สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ หรือสปอร์ต คลับ มีตรงตามความต้องการของผู้ซื้อหรือไม่ ในบริเวณใกล้เคียงโครงการมีโรงเรียน โรงพยาบาล หรือศูนย์การค้าหรือไม่ รวมถึง สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกโครงการ เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัวหรือไม่
นอกจากนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกประการหนึ่ง คือ บริษัทหรือเจ้าของโครงการมีความน่าเชื่อถือมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด โดยพิจารณาจากประวัติชื่อเสียงและผลงานในอดีต เพื่อเป็นเครื่องรับประกันในขั้นต้นว่า ผู้ซื้อจะได้บ้านที่มีมาตรฐานทั้งด้านความมั่นคงแข็งแรง และก่อสร้างบ้านให้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันอย่างตรงเวลา ในกรณีนี้ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์และมีความเป็นมืออาชีพ จะได้เปรียบกว่าผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีผลงานในการก่อสร้างเลย
สำหรับเรื่องราคาเป็นสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้ซื้อจะต้องพิจารณาให้ตรงกับกำลังซื้อที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อบ้านโดยคำนึ่งถึงราคาที่ถูกที่สุดไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้องเสมอไป เพราะโครงการที่มีราคาถูกอาจจะก่อสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำระยะการใช้งานน้อยทำให้ชำรุดทรุดโทรมได้ง่ายเสียค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาในระยะยาวกว่าบ้านที่มีราคาสูง แต่ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐาน ดังนั้นการพิจารณาเรื่องราคาบ้านในโครงการประเภทเดียวกันขนาดเท่ากันจะคำนึงถึงความคุ้มค่ามากกว่า โดยพิจารณาในแง่ของราคาที่ดิน ราคาค่าก่อสร้าง และคุณภาพของตัวบ้านเป็นประเด็นหลัก
การเลือกโครงการและราคาที่เหมาะสม ผู้ซื้อจะสามารถนำโครงการที่อยู่ในทำเลเดียวกันมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในจุดต่างๆ ได้ เพื่อคัดเลือกโครงการและบ้านที่มีราคาเหมาะสมคุ้มค่ากับการซื้อ การพิจารณาเปรียบเทียบจะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ผู้ซื้อจะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านในโครงการไหนราคาเท่าไหร่ โดยการเปรียบเทียบทั้งด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ สิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อม ราคาซื้อขายต่อตารางเมตร คุณภาพวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง ผู้ซื้อสมควรเปรียบเทียบข้อมูลจากการไปดูสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการจริง นำมาประมวลโดยการให้คะแนนในเรื่องต่างๆ รวมทั้งการปรึกษากับสมาชิกในครอบครัว และสอบถามจากผู้ที่ซื้อบ้านอยู่ในโครงการนั้นๆ ผู้ซื้อจะได้บ้านในโครงการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
-การเลือกตำแหน่งที่ดินและแบบบ้าน
เมื่อผู้ซื้อสามารถเลือกโครงการและราคาที่เหมาะสมได้แล้ว สิ่งที่ผู้ซื้อจะต้องพิจารณาในขั้นต่อไป คือ การเลือกตำแหน่งที่ดินและแบบบ้าน สำหรับเรื่องตำแหน่งที่ดินในโครงการจะเลือกแปลงที่เหมาะสมตามความต้องการของผู้ซื้อ เช่น อยู่ใกล้สวนสาธารณะ เพื่อต้องการสัมผัสความเป็นธรรมชาติและสะดวกในการออกกำลังกาย ต้องการอยู่ด้านในโครงการเพื่อต้องการความสงบเงียบ แต่อาจจะเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยในทรัพย์สิน ในกรณีที่โครงการไม่สามารถจัดเวรยามได้เพียงพอ หรือต้องการอยู่ด้านหน้าโครงการเพื่อความสะดวกในการเดินทางหรือต้องการประกอบกิจการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อเป็นหลัก นอกจากนั้นผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึงราคาบ้านที่เลือกในแต่ละแปลงซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปอีกด้วย
สำหรับแบบบ้านก็เช่นเดียวกัน การเลือกขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของผู้ซื้อเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันแต่ละโครงการจะมีแบบบ้านให้ผู้ซื้อเลือกอย่างมากมาย ทั้งสไตล์ร่วมสมัย สไตล์โมเดิร์น หรือสไตล์ไทยประยุกต์ที่กำลังเป็นที่นิยม แต่ในขณะเดียวกันผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยภายในบ้านที่เหมาะสมกับความต้องการ และความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญ ประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสม อาทิเช่น มีห้องต่างๆ ตรงกับความต้องการ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป สามารถติดต่อกันภายในระหว่างห้องได้สะดวกไม่ต้องขึ้นๆ ลงๆ ป้องกันแดด ฝนได้ดี มีการถ่ายเทอากาศดี ซึ่งรูปแบบบ้านจะต้องเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศนั้นๆ การนำแบบบ้านในต่างประเทศมาใช้จะต้องมีการปรับปรุงประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน
วิธีและขั้นตอนดังที่กล่าวข้างต้น ช่วยทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจเลือกซื้อบ้านได้อย่างเหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง เพราะเลือกซื้อบ้านที่ไม่คุ้มค่ากับการอยู่อาศัย



แหล่งข้อมูล : www.ghbhomecenter.com

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การเลือกซื้อบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

บ้านคือวิมานของเรา แต่จะมีบ้านซักกี่หลังที่ถูกใจผู้อยู่อาศัย ดังคำนิยามนี้จริงๆ สำหรับผู้ที่งบน้อย เบี้ยน้อย คงหาวิมานแบบไร้ที่ติได้ยาก จึงจำต้องทนอยู่บ้านเล็ก คับแคบ เนื้อที่น้อย หรือเพื่อนบ้านไม่เป็นมิตรต่อไปตามยัติถากรรม ถึงงบประมาณท่านจะมากน้อยเพียงใดก็ไม่สำคัญไปกว่าการเลือกทิศทางที่ดี ที่เหมาะสมกับตัวตนของท่านบ้านก็จะสามารเป็นพื้นดินที่ส่งเสริมดวง
ชะตาท่านให้ขึ้นสูงสุดในลิมิตที่ดวงท่านควรจะเป็นได้ วิธีการเลือกซื้อบ้านให้ได้บ้านที่ดีและเสริมดวงของท่านมี 2 วิธีใหญ่ๆ ที่ท่านควรใส่ใจในรายละเอียดให้มากที่สุด.

1 บ้านเลขที่ ที่ดี ที่สวย ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ส่งอิทธิพลให้กับการอยู่อาศัยของคนในบ้านได้เป็นอย่างดีอีกประการหนึ่งด้วยเช่นกัน เรื่อของบ้านเลขที่นี้ อาจารย์ได้ประสบพบมากับตนเองจากการไปทำฮวงจุ้ยให้กับหลายๆ บ้านที่ได้พบเห็น บ้านใดที่มีบ้านเลขที่ดี คนอยู่ในบ้านก็จะมีความหมายเป็นไปตามเลขที่บ้านนั้น บ้านใดที่มีบ้านเลขที่เสีย เลขที่เป็นไม่เป็นมงคลตามหลักฮวงจุ้ยผู้อยู่อาศัยในบ้านจะมีแต่เรื่องเดือดร้อนวุ่นวายไปตามตัวเลขของบ้านนั้นๆ

2เลือกทิศทาง ซึ่่งอาจารย์ได้เกริ่นไปแล้วว่า ต้องเช็กจากดวงของแต่ละบุคคลๆ ไปเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาว่าทิศนี้เหมาะสมจะอยู่อาศัย หรือทำกิจการใดๆ ต่อไปในภายหน้า

หลังจากที่ได้ทิศทางที่เหมาะสมกับการเป็นอวงจุ้ยที่ดีแล้ว ต่อจากนี้จะเป็น หลักการเลือกสภาพบ้านภายในตามหลักฮวงจุ้ยที่ทุกท่านสามารถเก็บไว้พิจารณา เมื่อเวลาจะไปดูบ้านที่ท่านต้องการซื้อมีดังนี้

1 ประตูรั้ว บ้านใดที่มีประตูรั้ว เล็ก กว่าตัวบ้านเกินความพอดี จะส่งผลทำให้วาสนาของเจ้าของบ้าน ไม่สูงส่งอย่างที่ควรจะเป็นควรที่จะสร้างประตูรั้วให้เหมาะสมแก่ฐานะของท่าน ที่ควรจะเป็น เพื่อให้ประตูรั้วส่งเสริมวาสนาท่านเจ้าของบ้านได้ตามที่ท่านต้องการ และแนวทางการสร้าง ประตูรั้วที่ถูกโฉลกนั้น เมื่อท่านได้ทิศทางที่ดีแล้ว ท่านยังสามารถ ออกแบบรูปทรงของประตูรั้วเพื่อเสริมบารมีให้เหมาะกับทิศทางที่ได้มาแล้วยิ่งๆ ขึ้นไปอีก รูปร่างรูปทรงต่างๆ การใช้สีที่เหมาะสม และขนาดของประตูรั้ว และเสารั้วนั้นสามารถนำมาคำนวนเพื่อให้ได้ขนาดที่ดีและส่งเสริมวาสนาได้อีกระดับหนึ่ง

2 โรงรถ บ้านใดที่มีโรงรถ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ก็ถือว่าเป็นจุดเสริมความเจริญ ของเจ้าบ้านได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับบ้านที่ไม่มีโรงรถความเจริญของท่านอาจมีอุปสรรค์ ท่านที่ต้องการเสริมจุดนี้ของตนเอง จึงควรเลือกบ้านที่มีโรงรถ จอดรถได้ อย่างต่ำ 1 คันขึ้นไป และไม่คับแคบจนเกินไป ควรมีความโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก

3 ประตูบ้าน บ้านที่มีประตูบ้านเล็กและแคบ วาสนาของเจ้าของบ้านนั้นก็จะต่ำำต้อยด้อยค่าตามไปด้วย ประตูที่ดี ควรได้สัดส่วนที่สวยงาม มีการเสริมความโค้งมนเหนือประตูขึ้นไปอีก เพื่อเป็นการกระจายพลังส่งให้สมาชิกในบ้านได้รับความเจริญทั่วถึงกันทั้งบ้าน และประตูรั้ว กับประตูบ้านไม่ควรตรงกัน เพราะพลังงานที่พวยพุ่งเข้ามาจากประตูรั้วนั้น จะมีความรุนแรงมากกว่าปกติ และยิ่งถ้ามีประตูหลังบ้านตรงกับประตูหน้าบ้านด้วยแล้ว ยิ่งไม่สมควรเป็นบ้านพักอาศัยอย่างยิ่ง เพราะพลังงานที่พุ่งจากหน้าบ้าน สามารถพุ่งทะลุผ่านหลังบ้านได้ชนิดที่ไม่มีสิ่งใดขัดขวางกั้นบังไว้เลย มีผลกระทบไปถึงสุขภาพของเจ้าของบ้าน อาจถึงขั้นเสียหายขนาดหนัก ถ้าท่านซื้อบ้านหลังนี้มาแล้ว ควรเปลี่ยนประตูบ้านให้เยื้องกันจะดีที่สุด

4 ห้องรับแขก บ้านใดที่มีห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น บ้านนั้นสามารถ อยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข และมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่นที่ดี ควรมีความโปร่งสบาย และมีลมธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาได้สะดวก หรือแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้า ถ้าเลือกได้ควรอยู่ทางโซนทิศตะวันออก เพราะจะได้รับทั้งแดดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และรับลมจากทิศตะวันออกเฉียงใต้

5 ห้องครัว ควรเป็นห้องที่โล่ง โปร่ง ไม่อับทึบ มีตู้มีชั้นเก็บอาหารสด อาหารแห้ง เตาไฟไม่ควรอยู่ตรงกับประตูครัว และไม่ควรตั้งใกล้กับซิ้งค์น้ำมากจนเกินไป ควรทิ้งระยะห่างยิ่งห่างมากยิ่งดี จะส่งผลให้คู่สามี ภรรยา และสมาชิกในครอบครัว ปรองดองกันดี

6 บันได บ้านที่ดีควรมีบันไดที่มั่นคง กว้างใหญ่ สวยงาม และไม่ควรเปิดประตูมาพบเจอบันใดบ้านเลยควรจะอยู่ในส่วนที่ปิดมิดชิดพอควร เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกมองเห็นทะลุไปถึงชั้นบน เป็นช่องทางให้ขโมยขึ้นบ้านได้ง่าย บันใดสำหรับคนอยู่อาศัยเมื่อเดินขึ้นไปจากขั้นล่างถึงชั้นบนสุด ควรนับให้ลงเลขคี่ และถ้าได้เลขคี่ที่สวยงามด้วยแล้วก็จะเป็นตัวบ่งบอกถึงสภาพหน้าที่การงานของท่านได้

7 ห้องน้ำ บ้านที่ดีไม่ควรมีห้องน้ำมากเกินจำนวนสมาชิกในบ้าน ห้องน้ำที่มากเกินไปทำให้เกิดการดูแลไม่ทั่วถึง บริวารลูกหลานอาจก่อเรื่องให้เหนื่อยใจได้ในภายหลัง ห้องน้ำที่ดีควรอยู่ในทิศที่ไม่ใช่ต้นลม ควรอยู่ในทิศที่มีแดดยามบ่ายส่องถึง แดดยามบ่าย
จะเป็นตัวฆ่าเชื้อโรค และไม่ทำให้ห้องน้ำอับชื้นจนเกินไป ห้องน้ำสำหรับแต่ละบ้านแต่ละความชอบส่วนตัวของแต่ละท่านแตกต่างกันออกไปบางท่านชอบห้องน้ำแบบแยกเป็นสัดส่วน บางท่านชอบแบบรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน บางท่านชอบให้ห้องน้ำเปิดโล่ง อยู่เป็นส่วนหนึ่งของห้องนอนท่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าท่านจะชอบห้องน้ำแบบใด ท่านควรดูแลทำความสะอาดห้องน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ ท่อรั่วซึม พื้นกระเบื้อแตก อย่าให้มี แล้วท่านจะสามารถควบคุม ดูแลลูกหลาน บริวารท่านได้เป็นอย่างดี

8 ห้องนอน บ้านที่มีห้องนอนหลายห้อง ควรจัดสรรให้เหมาะกับการใช้ชีวิตของแต่ละคนในบ้าน สำหรับท่านที่ทำงานประจำ ต้องตื่นแต่เช้า เข้านอนแต่วัน ควรนอนห้องที่อยู่ในโซนทิศตะวันออก เพราะแดดยามเช้าจะปลุกท่านตื่นได้ง่ายดาย ส่วนท่านที่นอนดึกตื่นสายเป็นกิจวัตร ทำงานกลางคืน หรือ งานส่วนตัวที่ไม่ต้องการ จำกัดเรื่องเวลาการทำงาน ท่านควรจะนอน ในห้องทางทิศตะวันตก เพราะท่านสามารถ ทำงานอยู่ได้จนดึก เมื่อกลับเข้าห้องนอนในช่วงหลัง 4 ทุ่มไปแล้วจึงจะสามารถหลับสบายกว่า และท่านสามารถนอนได้นานกว่าในช่วงเช้าไม่ต้องรีบตื่นเพราะแดดแยงตา เพียงเท่านี้ทุกคนในบ้านก็จะมีสุขภาพที่ดี เพราะเลือกห้องนอนใด้ถูกใจทุกคนในบ้าน

9 ห้องเก็บของ บ้านใดที่มีห้องเก็บของไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ท่านก็จะสามารถเก็บเงินเก็บทองได้ดีกว่าบ้านที่ไม่มีห้องเก็บของเอาซะเลย เพราะฉะนั้นควรจัดหาไว้บ้างเพื่อเป็นการเสริมความมั่งคั่งของท่านและครอบครัวท่านเอง

สำหรับการเลือกบ้านที่จะเป็นฮวงจุ้ยที่ดีกับตัวท่านัน้น ท่านต้องทราบดวงท่านเสียก่อน ลำดับต่อไปท่านจึงจะทราบว่าทิศทางใดเหมาะกับท่านมากที่สุด สำหรับการอยู่อาศัย ทิศทางใดเหมาะกับท่านมากที่สุดสำหรับการประกอบกิจการต่างๆ แต่บ้านสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักสร้างหันไปในทิศทางเดียวกัน คือไม่เหนือก็ใต้เท่านั้น ซึ่งตามหลักความเป็นจริงแล้ว 2 ทิศนี้เหมาะสำหรับบางท่าน บางคนเท่านั้น จึงต้องมีการแก้ไข ชัยภูมิ ฮวงจุ้ยกันไปสำหรับท่านที่ดวงไม่เหมาะกับทิศทางที่หมู่บ้านบังคับขายให้นั่นเอง

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551

หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อบ้านมือสอง

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านมือสอง หลายๆ คนคงกำลังสับสน และอาจจะกำลังต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อบ้านมือสอง และนี่เป็น 8 หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อบ้านมือสอง
1. ตรวจสอบความต้องการของคุณเอง ว่าสนใจบ้านประเภทใด


2. ระบุทำเลที่ต้องการ


3. ควรพิจารณาสภาพแวดล้อมบ้านนั้นๆ ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร มีสิ่งอำนวยความ สะดวกต่อชีวิตประจำวันหรือไม่ เช่น ใกล้โรงเรียน ศูนย์การค้า ตลาด โรงพยาบาล ฯลฯ เพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในอนาคต


4. พิจารณาตัวบ้าน ว่าสภาพเป็นอย่างไร ตรงกับความต้องการหรือไม่ เช่นความเรียบร้อย ของการ ก่อสร้าง ระบบไฟฟ้า น้ำประปา มีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงซ่อมแซม เช่น หลังคา สีของบ้าน ตัวบ้านทรุดหรือไม่ น้ำท่วมหรือไม่ หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี ให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้หรือไม่ แล้วถ้าต้องซ่อมแซมเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ใครคือผู้รับผิดชอบ ผู้ซื้อหรือผู้ขาย


5. กรณีที่จะซื้อที่ดินพร้อมบ้านจัดสรรทาวน์เฮ้าส์ หรืออาคารพาณิชย์ ควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของโครงการ ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารแล้วหรือไม่ โดยตรวจสอบได้จากกรมโยธาธิการ หรือ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด แล้วแต่กรณี


6. พิจารณาชุมชน เพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ว่าเป็นอย่างไร กรณีที่บ้านอยู่โครงการ จัดสรร ควรสอบถามเรื่องบริการชุมชนจากเพื่อนบ้าน ว่าเจ้าของโครงการหรืองานสา ธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นอย่างไร การดูแลรักษาสภาพโครงการสม่ำเสมอ และเหมาะสมหรือไม่


7. ราคาของบ้านมือสองที่เสนอขาย รวมและไม่รวมอะไรบ้าง เช่น

-


ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน อัตราพิเศษ 0.01% ของราคาบ้าน ซึ่งมีผลบังคับใช้ สิ้นสุด ธันวาคม 2544 และเริ่มเปลี่ยนเป็นอัตราเดิม 2% ในเดือนมกราคม 2545

-


ค่าภาษีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ปกติจะเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย


-


ภาษีธุรกิจเฉพาะ 0.11% ของราคาขาย หรือราคาประเมิน ซึ่งมีผลบังคับใช้ สิ้นสุด ธันวาคม 2544 และเริ่มเปลี่ยนเป็นอัตราเดิม 3.3% ในเดือนมกราคม 2545

-


ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาขาย กรณีนั้นยกเว้น เมื่อผู้ขายเสียภาษีธุรกิจ เฉพาะ จะได้รับการยกเว้นค่าอากรแสตมป์



8. กรณีที่คุณต้องการกู้ซื้อบ้าน ต้องเตรียมเรื่องขออนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านด้วย

ที่มา

Send article to friend & www.dogdoog.com

หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อบ้านมือสอง

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านมือสอง หลายๆ คนคงกำลังสับสน และอาจจะกำลังต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อบ้านมือสอง และนี่เป็น 8 หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อบ้านมือสอง
1. ตรวจสอบความต้องการของคุณเอง ว่าสนใจบ้านประเภทใด


2. ระบุทำเลที่ต้องการ


3. ควรพิจารณาสภาพแวดล้อมบ้านนั้นๆ ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร มีสิ่งอำนวยความ สะดวกต่อชีวิตประจำวันหรือไม่ เช่น ใกล้โรงเรียน ศูนย์การค้า ตลาด โรงพยาบาล ฯลฯ เพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในอนาคต


4. พิจารณาตัวบ้าน ว่าสภาพเป็นอย่างไร ตรงกับความต้องการหรือไม่ เช่นความเรียบร้อย ของการ ก่อสร้าง ระบบไฟฟ้า น้ำประปา มีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงซ่อมแซม เช่น หลังคา สีของบ้าน ตัวบ้านทรุดหรือไม่ น้ำท่วมหรือไม่ หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี ให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้หรือไม่ แล้วถ้าต้องซ่อมแซมเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ใครคือผู้รับผิดชอบ ผู้ซื้อหรือผู้ขาย


5. กรณีที่จะซื้อที่ดินพร้อมบ้านจัดสรรทาวน์เฮ้าส์ หรืออาคารพาณิชย์ ควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของโครงการ ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารแล้วหรือไม่ โดยตรวจสอบได้จากกรมโยธาธิการ หรือ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด แล้วแต่กรณี


6. พิจารณาชุมชน เพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ว่าเป็นอย่างไร กรณีที่บ้านอยู่โครงการ จัดสรร ควรสอบถามเรื่องบริการชุมชนจากเพื่อนบ้าน ว่าเจ้าของโครงการหรืองานสา ธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นอย่างไร การดูแลรักษาสภาพโครงการสม่ำเสมอ และเหมาะสมหรือไม่


7. ราคาของบ้านมือสองที่เสนอขาย รวมและไม่รวมอะไรบ้าง เช่น

-


ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน อัตราพิเศษ 0.01% ของราคาบ้าน ซึ่งมีผลบังคับใช้ สิ้นสุด ธันวาคม 2544 และเริ่มเปลี่ยนเป็นอัตราเดิม 2% ในเดือนมกราคม 2545

-


ค่าภาษีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ปกติจะเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย


-


ภาษีธุรกิจเฉพาะ 0.11% ของราคาขาย หรือราคาประเมิน ซึ่งมีผลบังคับใช้ สิ้นสุด ธันวาคม 2544 และเริ่มเปลี่ยนเป็นอัตราเดิม 3.3% ในเดือนมกราคม 2545

-


ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาขาย กรณีนั้นยกเว้น เมื่อผู้ขายเสียภาษีธุรกิจ เฉพาะ จะได้รับการยกเว้นค่าอากรแสตมป์



8. กรณีที่คุณต้องการกู้ซื้อบ้าน ต้องเตรียมเรื่องขออนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านด้วย

ที่มา

Send article to friend & www.dogdoog.com

การเลือกซื้อบ้านเดี่ยว บ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ คอนโด อาคารพาณิชย์ ตามหลักฮวงจุ้ย

การเลือกซื้อบ้านเดี่ยว ในปัจจุบันมีโครงการเกิดขึ้นมาใหม่มากมาย ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ เพราะในแต่ละวันมีคนเกิดขึ้นมากมาย เมื่อมีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้น จึงเกิดปัญหาว่า จะเลือกซื้ออย่างไร จึงจะคุ้มค่าที่สุด ปัญหาใหญ่คือ การคมนาคม จะต้องใกล้แหล่งชุมชน ใกล้ถนนใหญ่ หรือใกล้ที่ทำงาน เพื่อหลีกหนีการจราจรที่ติดขัด ราคาถ้าอยู่ในทำเลดี ราคาก็จะสูงตามไปด้วย รูปแบบของบ้านและพื้นที่ใช้สอย ไม่ว่าจะเป็น บ้านต่างระดับ บ้านสามชั้น หรือทรงยุโรปที่หรูหรา หรือทันสมัย ล้วนมีผลต่อผู้ซื้อทั้งสิ้น

แต่ในปัจจุบัน ฮวงจุ้ยเริ่มีบทบาทในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้านอย่างมากมาย ซึ่งบางคนให้ความสนใจเป็นอันดับแรกทีเดียว ซึ่งจะแตกต่างจาก การเลือกคอนโดมิเนียมหรือทาวเฮ้าส์ ซึ่งจะมีหลักพิจารณา คือ ทำเลหน้าบ้าน ทำเลหลังบ้าน ตำแหน่งของบ้าน ดวงชะตาบ้าน ตำแหน่งของบ้าน ทิศหลังบ้าน การจัดวางภายในบ้านด้วย

การเลือกซื้อบ้านจัดสรร หรือทาวเฮ้าส์ ปัจจุบัน ความต้องการเรื่องที่อยู่อาศัย ยังคงอยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มคนชนชั้นกลาง ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง โครงการบ้านจัดสรรดูเหมือน จะเป็นโครงการที่ตอบสนองคนกล่มนี้ได้ดีที่สุด เพราะมีระดับราคาที่พอซื้อหากันได้ ไม่เหมือนกับบ้านเดี่ยว ที่มีราคาค่อนข้างสูง

โครงการบ้านจัดสรร โดยทั่วไปมักจะอยู่ในรูปแบบทาวเฮ้าส์อย่างเดียว หรือทาวเฮ้าส์ที่อยู่ในรูปของโครงการบ้านเดี่ยว ซึ่งมักจะมีรูปแบบของอาคารพาณิชย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่ารูปแบบใด หลักในการพิจารณาเลือกซื้อ ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่

การพิจารณาเลือกซื้อบ้านจัดสรรให้สอดคล้องกันหลักฮวงจุ้ย ซึ่งความจริงไม่ต่างกับการเลือกซื้อบ้านเดี่ยว แต่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่มากกว่า คือ ทำเลทางเข้า ถนนหน้าบ้าน บ้านหัวมุมซ้าย บ้านตรงข้าม ทิศหลังบ้าน
คอนโดมิเนียม ถือเป็นโครงการยอดฮิตที่คนนิยมซื้อเป็นที่อยู่อาศัยกันมาก โดยเฉพาะคนในเมืองหลวง เนื่องจากมีราคาไม่แพงนัก และคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ มักจะสร้างในที่ชุมชน การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย ถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีโครงการและคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมายหลายระดับ ตั้งแต่ถูกสุดจนถึงแพงสด คอนโดมิเนียม คอนโดมิเนียมบางที่ ราคาแพงกว่าบ้านเดี่ยวเสียอีก เพราะรูปแบบของคอนโดมิเนียมที่มีให้เลือกมากมาย เพื่อสนองความต้องการของผู้ซื้อในทุกกลุ่ม

การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมจึงมีปัจจัย ที่ต้องนำมาพิจารณา ที่ค่อนข้างจะต่างจากการเลือกบ้านแบบอื่น คือพื้นที่โดยรอบ รูปแบบอาคาร รูปทรงที่ควรหลีกเลี่ยง การเลือกชั้น ตำแหน่งของห้อง สีของอาคาร

อาคารพาณิชย์ หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่า ห้องแถว ถือว่าเป็น ลักษณะห้องที่มีประโยชน์ใช้สอย ค่อนข้างจะหลากหลาย ไม่ว่าจะใช้เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ทำร้านค้า ใช้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก หรือใช้เป็นที่สต๊อกของ เก็บของ จึงทำให้ห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ เป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางทุกยุคทุกสมัย

การจะเลือกซื้อห้องแถว ไม่ว่าจะป็นโครงการใด ผู้ซื้อมักจะมีคำถามเสมอว่า ควรจะเลือกห้องไหนดี ด้านซ้ายหรือด้านขวา ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกตำแหน่งด้านหน้า ที่ใกล้ถนน หรือห้องริมหัวมุม เพราะส่วนใหญ่ คนที่ซื้อห้องแถว มักจะซื้อเพื่อทำเป็นร้านค้า หรือบริษัทมากกว่า ซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียว การเลือกลักษณะนี้ ถือเป็นการเลือกแบบทั่ว ๆ ไป แต่ถ้านำหลักฮวงจุ้ยมาประยุกต์ จะมีหลักใหญ่ ๆ ที่ต้องพิจารณา ดังนี้ ทางเข้าอาคาร ตำแหน่งที่ตั้ง สิ่งกีดขวางหน้าอาคาร ทางสามแพร่ง

เกมส์ ดูดวง ฟังเพลง เพลง เกม หางาน แอบถ่าย เนื้อเพลง งานราชการ สมัครงาน แบบบ้าน บ้านเช่า บ้าน หอพัก บ้านมือสอง คอนโด ห้องเช่า ลงประกาศ บ้านจัดสรร แบบบ้านชั้นเดียว คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ บ้านเดี่ยว แปลนบ้าน ที่ดิน ประกาศซื้อขาย
ที่มา ระบบอินเตอร์เน็ต

My Community - หน้าแรก

My Community - หน้าแรก